Moneyland15

ร้านเสริมสวยเซเว่นทีน ซาลอน Seventeen Salon รับแต่งหน้า ทำผมเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น รับปริญญา เจ้าสาว งานเลี้ยงกลางคืน แฟนซี ทั้งในและนอกสถานที่ ราคากันเอง โดยช่างมืออาชีพที่ชำนาญงาน โดยเฉพาะแนวการแต่งหน้า-ทรงผมเทรนด์ใหม่ๆ ที่อัพเดทล่าสุดจาก Magazin ชั้นนำ รูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า สามารถแก้ไขข้อบรกพร่อง โครงสร้างของใบหน้า และศรีษะ ปรับสภาพผิวเพื่อเตรียมความพร้อม กรุณาโทรจองล่วงหน้าค่ะ 089-9214869 คุณนิตย์ ร้านSeventeen Salon ซ.4 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เข้าซอยมา 350 เมตร ซ้ายมือ ร้านอยู่ระหว่างแยก 5กับแยก7 ติดร้านถ่ายเอกสาร มีกาแลติดอยู่ตรงหน้าจั่ว แต่งหน้าทำผม สำหรับงานเลี้ยงกลางคืน ม้วนผมเป็นลอนให้ดูเก๋ แต่งหน้าทำผม สำหรับงานเลี้ยงกลางคืน แต่งหน้าบางเบา เน้นโชว์ผิวใสตามธรรมชาติ สไตล์เกหลี สำหรับวันสบายๆ แต่งสวยสไตล์พริตตี้ แต่งหน้ารับปริญญา เน้นสวยตามธรรมชาติ แต่งหน้านางรำ งานเลี้ยงส่งของคณะครู ตัวอย่างผลงานที่ผ่านมา ออกแบบทรงผมผู้สูงอายุ แม้แต่ทรงผมเด็ๆก็ออกแบบให้เหมาะกับบุคลิกได้ค่ะ

คำกล่าวที่ว่าอกหักดีกว่ารักไม่เป็น...จริงค่ะ ถ้าคนเราไม่เคยอกหักเลยจะรักใครเป็นได้อย่างไร? บางครั้งความไม่สมหวังก็ช่วยเตือนสติเราได้เช่นกัน ช่วยให้เราได้หยุด...คิด...ทบทวนและย้อนกลับมามองตัวเองว่า ที่จริงแล้วเราเป็นใคร..มาจากไหน? วิเศษวิโส...เลอเลิศอย่างไร? ทำไม? จะอกหักรักขมเหมือนชาวบ้านทั่วๆไปไม่ได้ สาวสวยกับหนุ่มหล่อ.. ยังประกาศเลิกกันตูมๆทุกวัน ไม่เห็นแปลก ถ้าความรักของคนธรรมดาๆอย่างเรา จะอยู่ยงคงกระพันชั่วฟ้าดินดับ ก็เกินไปแล้ว ให้มันเกิดขึ้นบ้างก็ไม่เลวน๊ะ จะได้ลดความเป็นตัวตน และอีโก้ลงบ้าง กลับมาอยู่กับตัวเอง..อยู่กับความจริงมากขึ้น การที่ใครบางคนบอกเลิกเรา หรือว่าเรากำลังจะบอกเลิกใครอยู่ ไม่ได้แปลว่าใครคนใดคนหนึ่งดีขึ้นหรือเลวลง แต่เป็นเพราะชีวิตคือการเดินทางต่างหากล่ะ เมื่อการเดินทางเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา การได้พบเจอสิ่งใหม่ที่ดีกว่าจึงเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อมีโอกาสและความเป็นไปได้เกิดขึ้นแล้ว คนที่ฉลาดย่อมไม่อยากให้ชีวิตจมปลักอยู่กับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ กิจกรรมเดิมๆกับคนเก่าเดิมๆ การพยายามเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นในลำดับถัดไป เพราะฉนั้นอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราก็คือเรื่องธรร

อันดับแรก ต้องถามตัวเองดูก่อนค่ะ ว่าระหว่างสองอย่างชีวิตเราขาดอะไร? อันดับที่สอง เราต้องการอะไรมากกว่ากัน เพราะว่าทั้งสองอย่างมีความสำคัญใกล้เคียงกัน เคยคิดเล่นๆดูบ้างไหมค่ะ ว่าถ้าวันหนึ่งเราต้องเลือกระหว่างเงินกับความรัก เราจะเลือกอย่างไหน? คำแนะนำที่ 1. ควรเลือกความรักก่อนค่ะ ถ้าหากเราถานะมั่นคงอยู่แล้ว หมายถึงอาชีพของเราก็มั่นคงด้วย พึ่งพาตัวเองได้สบาย ถ้าต้องแต่งงานกับใครสักคนโดยไม่ได้รัก ชีวิตคงแห้งแล้งน่าดู เหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว สักแต่ว่ามีชิวิตอยู่ไปวันๆ เงินมากมายมหาศาลนั้นจะมีประโยชน์อะไร? เพราะคนเราก็แค่ทานอาหาร 3 มื้อ ทานได้แค่อิ่มเท่าเดิม มีเสื้อผ้ามากมายขนาดไหน ก็ใส่ไม่เกินวัน 3 ชุด หายใจเข้า-ออกเท่าเดิม มีเวลา 24ชั่วโมง/วัน เท่าเดิม โลกใบนี้ก็เล็กๆเท่าเดิม เที่ยวไม่กี่วันก็รอบโลกแล้ว เที่ยวมากๆก็เบื่อ ควรเลือกคนที่เราคิดว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขที่สุด ก็คนที่เรารักยังไงล่ะ จะมีประโยชน์อะไร? ถ้าชีวิตเราเหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว เป็นต้นไม้ที่ตายยืน อยู่กลางทะเลทราย คำแนะนำที่

ไม่ว่าเรากำลังพบเจอกับมรสุมชีวิต ที่หนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ตาม ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป ตราบใดที่เรายังหายใจเข้าออกเหมือนเดิม ทานอาหารสามเวลาเท่าเดิม มีญาติ-พี่ น้อง เพื่อนฝูงอยู่ครบเหมือนเดิม ชีวิตเราไม่ได้ขาดอะไรสักหน่อย เราแค่คิดไปเองทั้งนั้นว่ามันขาด เพราะให้ความสำคัญกับเรื่องบางเรื่องมากเกินไป จนลืมนึกถึงเรื่องสำคัญอื่นๆในชีวิตไปหมด ก่อนหน้านี้ก็อยู่คนเดียวมาได้ตั้งนาน แล้วทำไม? หลังจากนี้ไป...จะอยู่คนเดียวไม่ได้ล่ะ ถ้ากำลังตกงานอยู่ก็หางานใหม่ทำได้นี่ บ้านหลังเก่าถูกพายุพัดถล่มพัง ก็สร้างหลังใหม่ขึ้นมาแทน เมียเก่าตายก็แต่งเมียใหม่เข้าบ้าน ถ้าเงินหมดก็หาเงินใหม่ได้ โดนแฟนทิ้งเหรอ.....ก็มีแฟนใหม่ได้ ฟังดูเหมือนง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเราไปได้ ใครๆก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาทั้งนั้นหละ ไม่เห็นแปลกเลยถ้ามันจะเกิดขึ้นกับเราบ้าง จิตใจจะได้แกร่งขึ้นเกิดภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก มันก็แค่เรื่องธรรมดาๆที่เคยเกิดเป็นประจำอยู่แล้วนี่ ใครๆก็เคยอกหักน่า น่าจะมีคนอยู่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยอกหัก คือคนที่ตายไปแล้วและคนที่ยังไม่ได้เกิด ส่วนใ

วันนี้เป็นวันพิเศษอีกวันหนึ่งที่น่าจดจำ ตื่นเช้า 05.20 เตรียมอาหารใส่บาตรพระแต่เช้า พระมาบิณฑะบาตรเวลา 06.15 ของทุกวัน หลังจากใส่บาตรเสร็จแล้วก็เตรียมของไหว้เจ้าที่อย่างที่เคยทำ หลังจากกรวดน้ำทำบุญซึ่งถือเป็นกิจวัตรที่จำเป็นเสมอสำหรับการทำบุญทุกครั้ง